ท่า Warm Up ก่อน วิ่ง - 6 ท่าไดนามิก วอร์มอัพ สำหรับนักวิ่ง (Dynamic Warm Up) - วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี

  1. 7 ท่าวอร์มอัพก่อนวิ่ง ระยะไกล เพิ่มความฟิตในการวิ่งให้ผู้ชาย ที่สายวิ่งต้องอ่าน
  2. 5ท่า Warm Up ก่อนวิ่ง แล้วจะไม่เจ็บ - fixmesport
  3. 5 ท่าวอร์มอัพร่างกาย ก่อนออกกำลังกาย และประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย
  4. 5ท่า Warm up ก่อนวิ่งดีที่สุด เพียง3นาที (ทำตามได้เลย) | เนื้อหาที่เกี่ยวข้องท่าวอร์มก่อนวิ่งที่มีรายละเอียดมากที่สุดทั้งหมด

ตอบได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า "ไม่" (ฮา) เพราะการยืดเหยียดโดยยืนอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนไหว คือการยืดเหยียดแบบอยู่นิ่งกับที่ (Static Stretching) ที่เป็นการคลายกล้ามเนื้อ ลดการดึงตัว ซึ่งเหมาะสำหรับการคูลดาวน์ให้เครื่องหายร้อน มากกว่าการเพิ่มความร้อนให้เครื่องยนต์ โดยผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Scandinavian Journal of Medicine & Science in Sports พบว่าการทำ static stretching ก่อนวิ่งหรือออกกำลังกายทำให้ประสิทธิภาพ พละกำลัง ของกล้ามเนื้อลดลง เราจะไม่สามารถระเบิดพลังได้ดีอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งวิธีการที่ดีคือการยืดเหยียดแบบเคลื่อนไหว Dynamic Stretching คืออะไร?

7 ท่าวอร์มอัพก่อนวิ่ง ระยะไกล เพิ่มความฟิตในการวิ่งให้ผู้ชาย ที่สายวิ่งต้องอ่าน

ในการฝึกท่า High knees ให้คุณยกหัวเข่าขึ้นมาทางด้านหน้าให้สูงที่สุดด้วยจังหวะปานกลาง ส่วนสำหรับการฝึกท่า Butt kick ที่มีการขยับเคลื่อนไหวไปในทิศทางตรงกันข้ามกับท่า High knees ให้คุณเตะขาไปทางด้านหลังให้สูงที่สุดจนเกือบแตะถึงสะโพก [5] ท่า Butt kicks และท่า High knees เป็นท่าบริหารที่ยอดเยี่ยมในการขยับเคลื่อนไหวข้อต่อสะโพกที่สามารถช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่บริเวณรอบๆ กระดูกอ่อนและคลายเนื้อเยื่อเกี่ยวพันให้ขยับได้ง่ายยิ่งขึ้น 3 กระโดดเชือกแทนการวิ่งเหยาะ. เพื่อเป็นการเสริมสร้างความทนทานของหัวใจและหลอดเลือดมากยิ่งขึ้น คุณยังสามารถกระโดดเชือกควบคู่ไปกับการวิ่งเหยาะๆ ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจากจะเป็นท่าออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอที่ยอดเยี่ยมสำหรับการอบอุ่นร่างกายแล้ว การกระโดดเชือกยังช่วยให้คุณได้บริหารลำตัวช่วงบนและแขนทั้งสองข้างเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการวิ่งของคุณอีกด้วย [6] ในระหว่างกระโดดเชือก ให้คุณลงน้ำหนักลงไปที่ส่วนหน้าเท้าและแกว่งเชือกโดยใช้การหมุนข้อมือเท่านั้น (หลีกเลี่ยงการใช้หัวไหล่หรือแขน) [7] 4 กระโดดตบ. เนื่องจากการกระโดดตบสามารถทำได้แทบทุกที่ จึงเหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับใช้ในการอบอุ่นร่างกายก่อนเริ่มต้นการออกกำลังกายต่างๆ ถึงอย่างนั้นก็ตามการกระโดดตบเป็นท่าออกกำลังกายที่ใช้แรงมากกว่าที่คิด พยายามดันหัวไหล่ไปทางด้านหลัง รักษาแนวกระดูกสันหลังให้ตรง และเหยียดแขนทั้งสองข้างให้ตึงตลอดช่วงการกระโดดตบของคุณ [8] โฆษณา หลีกเลี่ยงการยืดเหยียดแบบอยู่กับที่ก่อนการวิ่ง.

*แนะนำดูคลิปก่อน1รอบจะได้เข้าใจได้เร็ว เพียง 5 ท่าใน 3 นาที (ทำต่อเนื่อง) ทำก่อนวิ่ง คุณจะพบความแตกต่างจากการWarm Upแบบเดิมๆ ลดโอกาศเจ็บขา เข่า สะโพก ได้มาก ใช้เวลาน้อยแต่ได้ผลมาก นำไปสู่ The Perfect Form วิ่งที่ดีกว่า เป็นWarm Up + ยืดเส้น ที่โค้ชนักกีฬาอาชีพแนะนำให้ทำ เหมาะกับผู้มีปัญหาบาดเจ็บง่าย ใช้ได้ทุกกีฬา ฟุตบอล บาส เเบดมินตัน ฟิตเนส Knee Hug ข้างละ 12 ครั้ง (รวม 30 วินาที) แนะนำให้เดินทำไปจนครบ ไม่ควรยืนอยู่กับที่ 2. Quad Stretch ข้างละ 12 ครั้ง (รวม 30 วินาที) แนะนำให้เดินทำไปจนครบ ไม่ควรยืนอยู่กับที่ 3. Leg Pull ข้างละ 12 ครั้ง (รวม 30 วินาที) 4. Lunge Twist ข้างละ 10 ครั้ง (รวม 30 วินาที) แนะนำให้ก้าวไปข้างหน้าสลับขาจนครบ 5. Leg Sweeps ข้างละ 15-20 ครั้ง (รวม 30-40 วินาที) หากยืนทรงตัวขาเดียวไม่ได้ ให้หาที่จับเพื่อให้ง่ายขึ้น รีวิวจากนักกีฬาที่ใช้ท่าวอมเหล่านี้ Cr. โค้ช Brian Klepacki Youtube Criticalbench เรียบเรียงและทดสอบ BBsportworld

5ท่า Warm Up ก่อนวิ่ง แล้วจะไม่เจ็บ - fixmesport

เริ่มต้นใหม่ โดยการทำสลับข้างกับขั้นตอนที่ 2 4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต 2. ท่าวิ่งอยู่กับพื้น (High Knee) วิธีฝึก 1. ยืนตรงในท่าที่สบาย 2. ยกแขนทั้ง 2 ข้าง ขนานกับพื้น เริ่มต้นวิ่งอยู่กับที่ ขณะที่วิ่งพยายามยกเข่าสูงให้แตะกับมือที่ยื่นออกมา หรือยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. Butt Kicks วิธีฝึก 1. ยืนตรงในท่าตามสบาย 2. เริ่มต้นคล้ายท่าวิ่งอยู่กับที่ แต่ให้เตะขาไปด้านหลังสลับกันซ้าย-ขวา มือ 2 ข้างยกขนานกับพื้นเหมือนการวิ่งปกติ 4. Side Shuffle Squat วิธีฝึก 1. ยืนตรง กางขาออกกว้างกว่าความยาวของไหล่เล็กน้อย ยื่นแขนตรงมาข้างหน้าให้ขนานกับพื้น 2. ย่อตัวลงจนเข่าตั้งฉากกับพื้น แล้วสไลด์ตัวไปข้างขวา โดยเริ่มจากเท้าขวา 5. Walking Lunge วิธีฝึก 1. ยืนตรง ขาชิด มือทั้ง 2 ข้างเท้าเอว 2. ก้าวขาซ้ายไปด้านหน้าให้มากที่สุด จนเข่างอตั้งฉากกับพื้น 3. ก้าวเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา 4. เริ่มต้นใหม่จากเท้าซ้าย

ท่าลันจ์ในรูปแบบต่างๆ สามารถช่วยเตรียมร่างกายส่วนล่างให้พร้อมสำหรับการวิ่งได้อย่างดีเยี่ยม เริ่มต้นจากฝึกท่าลันจ์ 10-20 ครั้งโดยก้าวเท้าสั้นๆ และเคลื่อนไหวร่างกายเพียงเล็กน้อยในช่วงแรกก่อนค่อยๆ เพิ่มพิสัยการเคลื่อนไหวให้เต็มที่จนครบ 20 ครั้ง จากนั้นทำต่ออีก 10-20 ครั้งแต่ในรอบนี้ให้คุณบิดลำตัวไปทางด้านซ้ายและด้านขวาพร้อมก้าวเท้าด้านเดียวกันไปข้างหน้า [13] เมื่อคุณเริ่มคุ้นชินกับการฝึกท่าลันจ์แบบก้าวไปข้างหน้าและแบบก้าวพร้อมบิดลำตัวแล้ว ลองเพิ่มการฝึกท่า ลันจ์แบบก้าวถอยหลังและแบบก้าวไปด้านข้าง 10-20 ครั้งในการอบอุ่นของคุณ [14] 4 ฝึกท่า Mountain climber. ท่า Mountain climber เป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยบริหารกล้ามเนื้อขาและลำตัวได้อย่างดีเยี่ยม อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการฝึกท่า Mountain climber นั้นใช้พลังงานมากกว่าการวิ่ง คุณจึงควรอบอุ่นร่างกายด้วยท่า Mountain climber โดยเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ในช่วงแรกและทำติดต่อกันเพียง 1-2 นาทีเท่านั้นก่อนหยุดพัก เพิ่มความหลากหลายให้กับการฝึกท่า Mountain climber ด้วยการเตะขาทั้งสองข้างพร้อมๆ กันแทนการเตะขาสลับกันทีละข้าง [15] 5 ฝึกท่า Donkey kick ในท่าเตรียมคลาน.

5 ท่าวอร์มอัพร่างกาย ก่อนออกกำลังกาย และประโยชน์ของการอบอุ่นร่างกาย

ยืดเหยียดกล้ามเนื้อหลังส่วนบน ประสานมือแล้ว เหยียดแขนไปข้างหน้าจนแขนตึง จากนั้นพยายามโก่งตัว ยื่นแขนไปข้างหน้าให้ มากที่สุด ท่านี้ช่วยลดอาการปวดเมื่อยบ่าได้ 6. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่อง ต้นขาด้านหลัง สะโพก และหลัง ยืนแยกเท้าเล็กน้อย ประสานมือกันในระดับไหล่ ก้มศีรษะลงและจัดท่าให้แขนอยู่แนบข้างใบหู แล้วก้มตัวไปข้างหน้าให้มากที่สุดโดยให้ลำตัวขนานกับพื้น 7. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกด้านใน ยืนแยกเท้าห่างกันพอสมควรโดยบิดปลายเท้าเฉียงออก 45 องศา ย่อเข่าลงและค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักตัวลงที่สะโพกด้านหลัง ใช้มือทั้งสองยันไว้ที่ต้นขาด้านในหรือดันเข่าทั้งสองให้แบะออกไปด้านหลัง 8. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อสะโพกด้านหน้า ยืนก้าวขาข้างหนึ่งไปด้านหน้าห่างพอประมาณ ค่อยๆ งอเข่าหน้าลง เข่าหลังเหยียดตึง หรือจะงอเข่าหน้าลงและงอเข่าหลังลงด้วยก็สามารถทำได้เช่นกัน 9. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่องและต้นขาด้านหลัง นั่งเหยียดขาข้างหนึ่งราบกับพื้น ส่วนอีกข้างงอไว้ แล้วก้มตัวลงไปข้างหน้าขณะที่ปลายเท้ากระดกขึ้น ควรก้มลงในลักษณะลำตัวตรง ไม่เอียงหรือตะแคงไปข้างใดข้างหนึ่ง 10. ยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่อง ก้าวขาไปข้างหน้าโดยกระดกปลายเท้าขึ้น ก้มตัวลงไปจับปลายเท้าจนรู้สึกตึงที่น่องและข้อพับเข่า ทีมา: ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมมาตรฐานผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้ตัดสินกีฬา

  1. ขนมจัดเบรคขนมไทย ชุดละ10บาทเท่านั้น - YouTube
  2. ระนอง ขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน - 77 ข่าวเด็ด
  3. 10 ท่า cool down ช่วยลดอาการบาดเจ็บ จะวิ่งจะออกกำลังกายไม่ควรละเลย : Inspired by LnwShop.com
  4. 6 ท่าไดนามิก วอร์มอัพ สำหรับนักวิ่ง (Dynamic Warm Up) - วิ่งไหนกัน ปั่นไหนดี
  5. ราคา new balance 420 women s sneakers
  6. W ภาษา ไทย
  7. 10 ท่าวอร์มร่างกาย ง่ายๆ เตรียมพร้อมก่อนออกกำลังกาย ป้องกันการบาดเจ็บ
  8. ท่า warm up ก่อนวิ่ง

5ท่า Warm up ก่อนวิ่งดีที่สุด เพียง3นาที (ทำตามได้เลย) | เนื้อหาที่เกี่ยวข้องท่าวอร์มก่อนวิ่งที่มีรายละเอียดมากที่สุดทั้งหมด

มีบัญชีอยู่แล้ว? 27 ม. ค.

เริ่มต้นใหม่ โดยการทำสลับข้างกับขั้นตอนที่ 2 4. ทำซ้ำ 10-15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซต 2. ท่าวิ่งอยู่กับพื้น (High Knee) วิธีฝึก 1. ยืนตรงในท่าที่สบาย 2. ยกแขนทั้ง 2 ข้าง ขนานกับพื้น เริ่มต้นวิ่งอยู่กับที่ ขณะที่วิ่งพยายามยกเข่าสูงให้แตะกับมือที่ยื่นออกมา หรือยกเข่าให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ 3. Butt Kicks วิธีฝึก 1. ยืนตรงในท่าตามสบาย 2. เริ่มต้นคล้ายท่าวิ่งอยู่กับที่ แต่ให้เตะขาไปด้านหลังสลับกันซ้าย-ขวา มือ 2 ข้างยกขนานกับพื้นเหมือนการวิ่งปกติ 4. Side Shuffle Squat วิธีฝึก 1. ยืนตรง กางขาออกกว้างกว่าความยาวของไหล่เล็กน้อย ยื่นแขนตรงมาข้างหน้าให้ขนานกับพื้น 2. ย่อตัวลงจนเข่าตั้งฉากกับพื้น แล้วสไลด์ตัวไปข้างขวา โดยเริ่มจากเท้าขวา 5. Walking Lunge วิธีฝึก 1. ยืนตรง ขาชิด มือทั้ง 2 ข้างเท้าเอว 2. ก้าวขาซ้ายไปด้านหน้าให้มากที่สุด จนเข่างอตั้งฉากกับพื้น 3. ก้าวเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา 4. เริ่มต้นใหม่จากเท้าซ้าย ไม่ยากเกินไปใช่ไหมคะกับท่าออกกำลังกายที่หยิบมาให้ได้ลองทำตามกัน ขอย้ำอีกทีว่ายังไงการวอร์มอัพก่อนวิ่งก็เป็นเรื่องสำคัญ ฉะนั้นอย่ามัวแต่คิดว่าการอบอุ่นร่างกายก่อนวิ่งเป็นเรื่องเสียเวลาเลย เพราะถ้าหากบาดเจ็บขึ้นมา จากที่จะได้ออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ก็อาจจะต้องหยุดพักเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บแทนก็เป็นได้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก เรื่องที่คุณอาจสนใจ

May 27, 2022